Last updated: 31 Jan 2024 | 3310 Views |
ริมฝีปากของเราถือเป็นอีกอวัยวะหนึ่งที่ต้องพบเจอกับมลภาวะ การรบกวนจากสิ่งต่างๆ แต่บางครั้งเราอาจจะหลงลืมที่จะดูแลไป บางครั้งอาจจะต้องเผชิญปัญหาการระคายเคือง แห้งแตกและแพ้ และอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ วันนี้ไอรามีวิธีง่ายๆมานำเสนอ ที่คุณสาวๆควรจะใส่ใจเพื่อให้ริมฝีปากของคุณดูสุขภาพดีอยู่เสมอ
1.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำร้ายริมฝีปาก
เมื่อพูดถึงริมฝีปากของเรา ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดสำหรับริมฝีปากของเราก็คือตัวเราเอง หลายนิสัยของเราสามารถนำไปสู่ความแห้งกร้านของริมฝีปาก และเกิดการระคายเคืองได้ เช่น การเลียริมฝีปากของคุณ ที่จะช่วยทำให้ชุ่มชื่นแค่ตอนแรก แต่ก็ทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมา น้ำลายของเราระเหยได้อย่างรวดเร็วทำให้ทิ้งความแห้งและเอนไซม์ในน้ำลายของคุณที่ใช้ในการย่อยอาหาร เมื่อสัมผัสบริเวณริมฝีปากก็อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้
นอกจากนั้นควรหลีกเลี่ยงการหายใจด้วยการเปิดปาก ไม่เพียงเพราะมันดูไม่มีมารยาท แต่ลองนึกถึงอากาศที่ถูกดูดและเป่าตลอดริมฝีปากว่ามีเชื้อโรคอะไรบ้าง บรึ๋ยย
2.เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
เคยสังเกตุบ้างไหมว่านิสัยการกินส่งผลต่อผิวเราอย่างไรบ้าง?
อย่าลืมที่จะใส่ใจเรื่องของอาหารที่เป็นปัจจัยสำคัญในสภาพริมฝีปากของคุณสาวๆเช่นกัน
ริมฝีปากของเราขึ้นอยู่กับปริมาณคงที่ของวิตามินและแร่ธาตุ ดังนั้นเราควรรับประทาน ผลไม้สดและผัก ที่มีวิตามินบีและอี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับริมฝีปากและผิวที่แข็งแรง
3.เลือกใช้ลิปบาล์มให้ปลอดภัย
มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของขี้ผึ้ง เชียบัตเตอร์ นอกจากจะเป็นส่วนผสมธรรมชาติแล้ว ซึ่งเหล่านี้มีความชุ่มชื้นและไม่ระเหยเร็ว จะช่วยให้ความชุ่มชื่นได้เป็นอย่างดี สำหรับริมฝีปากที่ระคายเคือง ควรใช้ลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ รวมไปถึงสารสกัดต่างๆ อาทิ ชาเขียว ซึ่งมีคุณสมบัติใช้เพื่อรักษาผิวไหม้เกรียม ผิวที่บอบบางและปลอดภัย
นอกจากนั้นเราควรสครับริมฝีปากสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายไปแล้วด้วย
4.บริหารริมฝีปากเป็นประจำ
หลายๆคนออกกำลังกายเพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ฉะนั้นลองสละเวลาสักนิดมาบริหารบริเวณริมฝีปากของเราด้วยซึ่งหากเราทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องสามารถเพิ่มการไหลเวียนโลหิตซึ่งจะทำให้คุณมีสุขภาพดีขึ้นเรื่อย ๆและสามารถปรับปรุงโทนผิวและผิวหน้าของคุณได้
5. พบแพทย์เมื่อจำเป็น
บางครั้งปัญหาที่เกิดกับริมฝีปาก อาจเกิดจากการติดเชื้อหรือการบริโภคอาหารที่ไม่ดี จำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ หากเรากำลังประสบปัญหา เช่น อาการปวดหัวเมื่อยล้าหรือปวดหัวบ่อยๆ ริมฝีปากแตก อาจเป็นเพียงตัวบ่งชี้หนึ่งของปัญหาที่ใหญ่กว่า เช่น การขาดวิตามินหรือแร่ธาตุ เมื่อไรก็ตามที่เกิดความผิดปกติต่อริมฝีปากที่เราไม่สามารถรักษาเองได้ หรืออาจะเกิดรอยแผลที่ไม่ทราบที่มา และไม่หาย ควรไปพบแพทย์เพื่อให้ช่วยตรวจสอบเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส และจะได้รับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
เห็นไหมคะว่า? เราสามารถดูแลริมฝีปากของเราได้ไม่อยากเลย เราดูแลส่วนอื่นๆของร่างกายเราได้แล้ว ก็อย่าลืมดูแลริมฝีปากของเรา ให้ดูสุขภาพดีอยู่เป็นประจำนะคะ สามารถใช้ลิปบาล์มไอราเป็นตัวช่วยที่คุณสามารถพกติดตัวไปได้ทุกที่ และจะช่วยดูแลริมฝีปากของคุณค่ะ
ที่มา : https://health.howstuffworks.com/skin-care/lip-care/tips/5-tips-for-maintaining-healthy-lips6.htm