วิธีรักษา..เมื่อเกิดอาการแพ้ลิปสติก

         การแต่งหน้าเป็นของคู่กันกับผู้หญิงหลายๆคน เพราะการแต่งหน้านอกจากจะทำให้เราดูดีขึ้นแล้วยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเราอีกด้วย แต่บางครั้งหลังจากที่เราแต่งหน้าไปแล้วนั้น ก็อาจจะเกิดปัญหากับเราได้ เช่น เกิดอาการแพ้


         วันนี้ไอรามีบทความที่จะรวบรวมเกี่ยวกับการแพ้ลิปสติกและวิธีแก้ปัญหา หากสาวๆคนไหนที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้ ก็อย่าเพิ่งตกใจไป ค่อยๆตั้งสติ และรักษากันให้ถูกวิธีดีกว่าค่ะ



อาการเมื่อแพ้ลิปสติก

เริ่มสำรวจตัวเองว่าเรามีอาการเหล่านี้หลังจากใช้ลิปสติกหรือไม่

- คันริมฝีปาก
- ริมฝีปากไหม้
- ริมฝีปากบวมทั้งบนและล่าง
- ปวดหัวและรู้สึกไม่สบาย
- รู้สึกแสบริมฝีปาก
- เกิดการพุพองของอวัยวะภายในปากและรอบปาก
- มีผื่นแดงบริเวณปาก
- อาจมีบางอาการที่เกี่ยวข้อง เช่น เปลือกตาบวม
- อาการบวมที่ลำคอ ลิ้น และหายใจลำบาก

สาเหตุของการแพ้ลิปสติก

สาเหตุทั่วไปคือการใช้ลิปสติกที่มีส่วนประกอบหรือสารเคมีที่เป็นอันตราย หรือมีส่วนประกอบที่ไม่ได้รับมาตรฐาน หรือหากเป็นคุณผู้ชายอาจจะมาจากการแพ้น้ำยาโกนหนวดก็เป็นได้

การรักษาอาการแพ้

-หลีกเลี่ยงการใช้ลิปสติกหากเป็นสาเหตุสำคัญของอาการภูมิแพ้ริมฝีปาก
-สามารถใช้แพ็คน้ำแข็งมาประคบบริเวณที่บวม เพื่อรักษาอาการเบื้องต้นได้ โดยการประคบไว้สัก 5-10 นาที เพื่อรอดูอาการ
-หลีกเลี่ยงการรบกวนริมฝีปาก เช่น การสครับ หรือการใช้ลิปสติกที่มีส่วนผสมของน้ำหอม ซ้ำเข้าไปอีก

-วางถุงชาเย็นไว้ที่ริมฝีปากเมื่อริมฝีปากบวมและรู้สึกคัน

-ใช้เจลว่านหางจระเข้บนริมฝีปากเพื่อช่วยในการผ่อนคลายและช่วยลดอาการบวมของริมฝีปากได้อย่างรวดเร็ว
-ในกรณีที่อาการไม่ลดลงหรือมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้นคุณควรพบแพทย์ทันที ซึ่งแพทย์อาจจะให้ antihistamines เพื่อลดอาการภูมิแพ้ริมฝีปาก



         รู้อย่างนี้แล้วสาวๆควรจะระมัดระวังกันมากขึ้น และรักษาให้ถูกวิธีกันด้วยนะคะ ที่สำคัญควรเลือกใช้ลิปสติกผลิตภัณฑ์ดูแลริมฝีปาก ที่ไม่มีสารอันตราย และมีส่วนผสมจากธรรมชาติ เพื่อความปลอดภัยของริมฝีปากเราดีกว่า



ที่มา : http://www.simple-remedies.com/health-food/lip-allergy-symptoms.html